Type: Work & Travel
WORK AND TRAVEL 2024 จ๊ะโอ๋ Mohegan sun
CONNECTICUT รัฐใกล้เมืองหลวงที่มีดีในตัว
รัฐ CONNECTICUT เป็นอีกหนึ่งที่ที่อาจจะถูกมองข้ามเวลาที่ทุก ๆ คนแพลนที่จะไปเที่ยวในฝั่งนิวยอร์กของอเมริกา แต่หากทุกคนซูมเข้ามาใกล้ ๆ และใส่ใจรัฐนี้เพียงเสี้ยวหนึ่ง ก็จะเห็นได้ว่ารัฐนี้มีดีกว่าที่เราคิดเยอะเลยนั่นก็คือ มีโรงแรมหรู และใหญ่อันดับต้น ๆ พร้อมสวัสดิการสุดปัง อย่าง FOXWOODS และ MOHEGAN SUN และนอกจากนี้ ยังเดินทางไปรัฐดัง ๆ ได้อย่างสะดวกและราคาไม่แรง โดยใช้เวลาไป NYC เพียง 2.30 ชม. เท่านั้น!!

นอกจากที่น้อง ๆ จะได้โรงแรมหรูสวัสดิการดีๆ เป็นที่ทำงานของตัวเองแล้ว ที่นี่ยังเป็นรัฐที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นสำหรับคนที่อยากทำให้วัน Dayoff สุดธรรมดา ให้กลายเป็นวันที่แสนพิเศษและมีความสุขที่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ อีกด้วย
1.กิจกรรมอย่างแรก ไม่ต้องออกไปไหนไกล นั่นก็คือ “Mohegan Sun Arena” ที่ซึ่งเป็นลานสนามกีฬาอเนกประสงค์ที่มีกิจกรรมต่าง ๆ จัดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนยเสิร์ตใหญ่ ๆ หรือการแข่งขันกีฬาครั้งสำคัญ ซึ่งหากใครทำงานที่นี่ก็อาจจะโชคดี ได้เจอศิลปินที่ชื่นชอบโดยไม่เสียเงินเลยก็ได้นะ

2.อย่างที่สองก็คือ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Mystic และสถาบันเพื่อการสำรวจ” พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้เปิดโอกาสให้น้อง ๆ สามารถสัมผัสกับสัตว์ทะเลและสัมผัสกับนกในชนบทห่างไกล รวมทั้งยังได้ใกล้ชิดกับปลาวาฬเบลูก้าและสัตว์ที่เป็นที่นิยมอื่น ๆ เช่นสิงโตทะเล Steller นกเพนกวินแอฟริกัน

3. สำหรับสายภาพยนตร์กันบ้าง อย่าง “ปราสาท Gillette” ซึ่งเป็นบ้านของ William Hooker Gillette ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงที่เล่น Sherlock Holmes บ้านมีลักษณะเป็นป้อมปราการยุคกลางจากด้านนอกและภายในมีงานไม้ด้วยมือและคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ที่ออกแบบโดยกิลเลตต์เองรวมถึงสลักประตูไม้และสวิทช์ไฟ น้องๆ ที่ไปช่วงสปริงจะสามารถข้ามแม่น้ำ Connecticut จาก Chester โดยเรือข้ามฟาก Hadlyme พร้อมกับชมทิวทัศน์ที่สวยงามขณะที่กำลังเข้าใกล้ปราสาทได้เลย

4. ที่รัฐนี้ยังมีชายหาดอย่าง “Hammonasset Beach State Park” ซึ่งยังขึ้นชื่อว่าเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งน้อง ๆ สามารถเล่นกีฬาทางน้ำอย่างเจ็ตสกี เรือใบ และ Wake Board เป็นต้น รวมทั้งใกล้ ๆ ยังมีร้านอาหารและสวนสาธารณะให้ถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย

5. สุดท้าย ที่ซึ่งเหมาะกับน้อง ๆ ที่ชอบความสงบที่สนใจในเรื่องของประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ “พิพิธภัณฑ์และศูนย์วิจัยของ Mashantucket Pequot” เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชนพื้นเมืองอเมริกันและธรรมชาติของตอนใต้ของประเทศอังกฤษ โดยจะการจัดแสดงในร่มพร้อมทั้งเทคโนโลยีสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย

WORK AND TRAVEL 2024 ตังเม Bally’s Lake Tahoe
WORK AND TRAVEL 2024 ดรีม Harrah’s Resort Atlantic City
WORK AND TRAVEL 2024 อีฟ Camp Richardson
ไปตรงไหนของ Disneyland, California ถึงจะเรียกว่ามาถึง!!
ขึ้นชื่อว่า สวนสนุกระดับโลก ใคร ๆ ก็ต้องมี Disneyland เป็นหนึ่งในลิสต์ที่จดไว้แล้วว่า ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีสนีย์แลนด์สาขาแรกสุดคลาสสิค ที่สร้างมาอย่างยาวนานแต่ไม่เคยที่จะล้ายุคล้าสมัย และยังเป็นขวัญใจให้กับคนทุกเพศทุกวัยที่อยากจะไปเที่ยวฝั่งนี้ วันนี้พี่ๆ จะมาแนะนำ LANDMARK ของที่นี่ให้น้อง ๆ ได้ปักหมุดและดิ่งตรงเข้าไปโดยที่ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเสิร์ชเลย

แต่ ๆๆๆ แต่เดี๋ยวนะ ก่อนเข้าเรื่อง หลาย ๆ คนอาจจะพอรู้มาว่าราคาตั๋ว Disneyland นั้นก็แพงเหลือเกิน บางคนที่อยากไปที่นี่อาจจะคิดแล้วคิดอีก ว่าจะเก็บเงิน หรือจะใช้โอกาสการมาเหยียบที่อเมริกาครั้งนี้ในการเก็บ content ที่นี่ดีนะ
วันนี้พี่ ๆ IEE มีอะไรมาแนะนำ นั่นก็คือ!!!!!! ตั๋วแบบ 1 Day Pass ที่น้อง ๆ สามารถเลือกได้ตามแต่ใจ ว่าจะเข้า Disneyland Park หรือ Disney California Adventure Park


โดยที่น้องๆ แค่ทำงานในโรงแรม ANAHEIM MAJESTIC GARDEN HOTEL ซึ่งมีให้เลือกทั้งตำแหน่งโรงแรม และร้านอาหาร รวมทั้งยังมีสวัสดิการที่พักถูกๆ และอาหารให้อีกด้วย เห็นอย่างชัดเจนนะว่าการทำงานในโรงแรมนี้ คุ้มทั้งสายเที่ยว ทั้งสายเก็บเงินเลยทีเดียว

และ 1 วันที่มีนี้ พี่ๆ จะแนะนำ 8 ไฮไลท์ ที่น่าไปในสวนสนุก Disneyland ให้น้องๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
- ปราสาทเจ้าหญิงนิทราจากอนิเมชั่น ชื่อดังเรื่อง Sleeping Beauty
- ชิงช้า Pixar Pal-A-Round
- Fountain Pixar
- Cars Land การผจญภัยใน Radiator Springs
- Flo’s V8 Café
- Grizzly River Run
- Frozen – Live at the Hyperion
- Avengers Campus



ROAD TRIP ฝั่ง WEST COAST ไปไหนดีนะ?
ขึ้นชื่อว่าเป็นฝั่งตะวันตกของประเทศอเมริกา หลายๆ คนอาจจะนึกถึงความเป็นธรรมชาติและวิวที่ตระการตาเป็นแน่!! วันนี้พี่ ๆ IEE จะมาแนะนำโซนท่องเที่ยวฝั่ง West Coast ที่เช่ารถครั้งเดียว ได้เที่ยวแบบคุ้มค่าและได้รูปสวย ๆ ปัง ๆ ไปโพสต์อวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลแน่นอน!!!
แต่ก่อนที่จะเข้าเรื่อง พี่ๆ จะมาแนะนำประเภทของรถที่สามารถนำไปใช้ Road Trip ก่อน ว่าแบบไหนเหมาะกับใคร ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่
1. CAR ROAD TRIP (รถยนต์)
CAR ROAD TRIP เหมาะกับน้อง ๆ ที่อยากจะตั้งแคมป์และแวะพักผ่อนข้างทางระหว่างวัน โดยจมีราคาที่ต่ำกว่าในเรื่องของการเช่ารถ ถ้าเทียบกับ RV แต่อาจจะต้องแพลนเรื่องที่พักกันน้า

2. RV ROAD TRIP (รถบ้าน)
RV ROAD TRIP เหมาะกับน้องๆ ที่อยากเดินทางแบบไม่ต้องห่วงเรื่องที่พักเลย แต่อาจจะต้องศึกษาจุดจอดรถที่ปลอดภัย และบางที่อาจจะมีค่าจอดรถสำหรับรถค้างคืนน้า

หลังจากที่มีความรู้เรื่องยานพาหนะกันแล้ว เรามาดูโลเคชั่นที่จะไปกัน
โดยเราจะเริ่มต้นจากที่ Lake Tahoe ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรัฐ Nevada และ California ซึ่งนับได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในอเมริกาเหนือ หรือจะบอกว่าสวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยพี่ ๆ จะมีงานฝั่งโซนนี้ให้เลือกมากมาย เช่น HARRAH’S AND HARVEYS LAKE TAHOE, MARGARITAVILLE RESORT LAKE TAHOE, CAMP RICHARDSON RESORT เป็นต้น

Lake Tahoe
ที่นี่มีกิจกรรม Out door ให้น้อง ๆ ได้เลือกทำมากมาย เช่น Paddle Board, เช่าเรือออกไปตกปลา, นั่งปิคนิคริมชายหาด หรือ ปั่นจักรยาน โดยรอบ ๆ จะมีความงดงามของธรรมชาติให้ชมได้อย่างน่าประทับใจ

Yosemite National Park
แน่นอนว่าสายธรรมชาติจะไม่พลาดกับอุทยานแห่งชาติ Yosemite National Park ซึ่งที่นี่เป็นอุทยานที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 5 ล้านไร่ เหมาะกับสายผจญภัยที่อยากไปเดินป่า ชมวิวทิวทัศน์ ชมทิวเขาและน้ำตก และเก็บจุดไฮไลท์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่าง Tunnel View / El Capitan และชมพระอาทิตย์ตกที่ Glacier Point ได้อย่างงดงาม

Grand Canyon National Park
ที่นี่จัดว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกซึ่งบริเวณโดยรอบเป็นหน้าผาสูงชันที่เรียงรายสลับทับซ้อนกันไปมา ที่นี่จะแบ่งจุดเยี่ยมชมออกเป็นโซน ๆ ได้แก่ South Rim / North Rim / West Rim โดยฝั่ง South Rim จะเป็นฝั่งยอดฮิตของนักท่องเที่ยว

Antelope Canyon
ที่ Antelope Canyon มี 2 โลเคชั่น คือ Lower Antelope Canyon และ Upper Antelope Canyon และหากใครจะเข้าที่นี่อย่าลืมติดต่อพี่ ๆ ไกต์ให้พาชมจุดที่สวยงามเหมือนทะลุออกมาจากจอ Window กันด้วยน้า
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ แต่ก่อนน้อง ๆ จะไปเอนจอย Road Trip อย่าลืมเตรียมตัวเรื่องแผนการท่องเที่ยวและเช็คสถานการณ์ของสถานที่ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการติดขัดและปลอดภัยกันทั้งกลุ่มน้า
ไปอเมริกาฝั่งไหนดีนะ (East Coast VS West Coast)
ในประเทศอเมริกานั้นกว้างใหญ่ไพศาลสุดๆ และแน่นอนว่าน้องๆ หลายคนก็คงคิดว่า 50 รัฐนั้นเป็นตัวเลือกที่เยอะมาก ๆ ที่จะตัดสินใจเลือกไปที่ใดสักทีหนึ่ง โดยเฉพาะโปรแกรมระยะสั้นอย่าง Work and Travel เพราะแต่ละรัฐก็มีประวัติและความโดดเด่นที่ต่างกันออกไป
วันนี้พี่ๆ จะมาแนะนำว่าใครเหมาะกับโซนไหนในประเทศอเมริกาที่สุด โดยโซนที่พี่ๆ แนะนำนั้นนับได้ว่าเป็นเขตที่โด่งดัง และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย พี่ๆ จะแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยกัน ก็คือ ฝั่งตะวันออก (East Coast) และฝั่งตะวันตก (West Coast)

East Coast เดินทางสะดวก ชมเมืองสบาย
ฝั่งนี้ส่วนใหญ่จะมีบรรยากาศที่เร่งรีบ ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีลักษณะนิสัย active ซึ่งจะเป็นคนที่ตื่นตัวอยู่เสมอ ชอบวิวเมืองและทะเล โดยฝั่งนี้จะมีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีมาก ๆ เข้าถึงในหลาย ๆ เมืองดัง ใครที่ชอบเดินทางไปช็อปปิ้ง เน้นถ่ายรูปวิวเมืองและได้งานที่เดินทางไปที่ไกลๆ ได้สะดวกโดยไม่ต้องเช่ารถ ฝั่งนี้ก็ตอบโจทย์เลยทีเดียว
ตัวอย่างเมืองที่อยู่ฝั่ง East Coast ที่สหรัฐอเมริกา เช่น New York, Boston, Atlantic City, Connecticut, Maryland และ Florida เป็นต้น

West Coast อิสระที่มาพร้อมกับความเป็นส่วนตัว
ในทางกลับกัน ฝั่งนี้ผู้คนก็จะมีการใช้ชีวิตแบบสบายๆ และมีความเรียบง่าย เนื่องจากการเดินทางฝั่งนี้ไม่ได้มีรถไฟหรืออะไรมากมาย ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเช่ารถบ้าน หรือเที่ยวในลักษณะของ Road Trip ในการชมธรรมชาติอันสวยงามข้างทาง ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมาก ข้อดีอีกอย่างของฝั่งนี้คือเราสามารถแพลนเที่ยวด้วยตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการตกรถเลย แต่ถามว่าฝั่งนี้จะมีเมืองในรูปแบบไหน ก็อาจจะไม่ใช่ตึกสูงลัดฟ้า แต่จะเป็นลักษณะของ Downtown ที่ครบครันและเรียบง่าย
ตัวอย่างเมืองในฝั่ง West Coast ที่สหรัฐอเมริกา เช่น Seattle, Washington, Portland, Oregon, Lake Tahoe, Yosemite National Park, San Francisco เป็นต้น
เป็นยังไงกันบ้างกับข้อมูลคร่าวๆ ของผู้คนและบรรยากาศในฝั่ง East Coast และ West Coast แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้อิงจากข้อมูลโดยรวมของการใช้ชีวิตของผู้คนในแต่ละฝั่งเท่านั้น น้องๆ สามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหางานที่ใช่ในโลเคชั่นที่ชอบได้เลย
Foxwoods โรงแรมที่ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม
‘’โรงแรม’’ ที่หลายๆ คนรู้จักกันคงเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวในยามที่เราต้องทำกิจกรรมนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการพักร้อน หรือการทำงานโดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นอาหารเช้า หรือถ้าจะหรูกว่านั้นก็คงจะเป็นสระว่ายน้ำอันใหญ่โตมโหฬาร หรือพร๊อบถ่ายรูปสวยๆ รอบๆ โรงแรมแต่กับ Foxwoods Resorts and Casino หนึ่งในโรงแรม Full Entertainment ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่รัฐ Connecticut ซึ่งอยู่ทางฝั่ง West Coast ของประเทศสหรัฐอเมริกา หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า โรงแรมที่ใหญ่ขนาดนี้ จะมีกิจกรรมอะไรที่แตกต่างจากที่อื่นบ้าง วันนี้พี่ ๆ จะมายกตัวอย่าง 5 กิจกรรมที่น่าสนใจ และเซอร์ไพร์สใครหลายๆ คน ว่านี่มันยิ่งกว่าโรงแรมเสียอีก

1. SPELLBOUND ESCAPES (ESCAPE ROOMS & ADVENTURE GAMES)
เปิดประสบการณ์ห้องหลบหนีระดับโลกที่ Foxwoods Resort & Casino ซึ่งที่นี่จะมีการนำเสนอภารกิจที่ท้าทายให้น้องๆ ได้แก้ไขปริศนาลึกลับด้วยตนเอง โดยจะมีการวางกลอุบายทั่วทุกมุมห้อง ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่จะมีเอฟเฟกต์พิเศษในเกมที่น่าตื่นเต้นและทิวทัศน์ที่ตระการตา ใครไปทำงานที่นี่ห้ามพลาดเลย เพราะน้องๆ จะได้รับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม

2. MONZA WORLD–CLASS KARTING
รถโกคาร์ทระดับไฮเอนท์ Monza ใช้พลังงานแบตเตอรี่วิ่งบนสนามในร่มที่ยาว รวดเร็ว และไม่เหมือนใคร การให้คะแนนของที่นี่จะมีความซับซ้อน เพื่อให้ได้ประสบการณ์การแข่งรถที่เสมือนจริง โดยจะมีสนามแข่งหลายเลเวลซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทั้งระดับความสูงและการเลี้ยวของรถ ทำให้ผู้เล่นต้องใช้กำลังในการควบคุมเพื่อเร่งความเร็วสูงสุด สาย Racing ห้ามพลาดเลย

3. HIGHFLYER ZIPLINE
ขอเชิญน้องๆ รัดเข็มขัดให้แน่นแล้วพุ่งตัวจากดาดฟ้าของ The Fox Tower ที่ความสูง 350 ฟุตจากพื้นดิน สัมผัสสายลมเย็นที่พัดผ่านเส้นผมและดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันน่าทึ่ง ไปจนถึง Long Island Sound ด้วยความเร็วเกือบ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง

4. XD DARK RIDE
เพลิดเพลินไปกับความตื่นเต้นของเครื่องเล่นด้วยการใช้ประสาทสัมผัสที่หลากหลายแบบ แห่งแรกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเครื่องเล่นที่นี่จะเป็นรูปแบบ 7-D! เหมาะกับการชวนเพื่อน ๆ มาเพื่อสัมผัสประสบการณ์และแข่งขันกันเพื่อทำคะแนนสูงสุด! น้องๆ จะสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวของเบาะนั่งและลมระหว่างการผจญภัยอันน่าทึ่ง

5. TANGER OUTLETS
น้องๆ สามารถ ช้อปปิ้งในแบรนด์ระดับโลกภายใต้หลังคาเดียวกันที่ Tanger Outlets ที่ Foxwoods ด้วยร้านค้าเอาท์เล็ทชั้นนำมากกว่า 60 แห่ง ได้แก่ Coach, Crocs, H&M, Michael Kors, Old Navy, Nike, Under Armour
นี่เป็นเพียงเพียงส่วนน้อยๆ ใน Foxwoods เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีงานอีเวนท์ใหญ่ต่าง ๆให้น้องๆ ได้เข้าร่วม และหากใครโชคดีก็อาจจะได้เจอศิลปินระดับโลกมาร่วมงานก็ได้นะ แล้วพบกันที่ Foxwoods
━━━━━
ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ
📲 086 490 3144
📲 086 490 3145
📲 086 479 5833
☎️ 02 612 9511 ต่อ 14
💬 Line Official: @ieethailand (มี@)