IEE Open House 2025

อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ต้องเริ่มจากตรงไหน?

การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไม่ใช่แค่เรื่องของการไปเรียนต่างประเทศ แต่คือการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เติบโต เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ฝึกทักษะภาษา และค้นพบตัวตนจากประสบการณ์จริงในต่างประเทศ

หากยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน หรืออยากได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้ ขอเชิญเข้าร่วมงาน IEE Open House 2025 เพื่อเปิดประตูสู่โลกกว้างไปด้วยกัน

  • วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568
  • เวลา 13.00 – 15.00 น.
  • สถานที่: IEE Experience Center ชั้น 15 อาคารพญาไทพลาซ่า (ติด BTS พญาไท)
  • สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง สามารถเข้าร่วมแบบออนไลน์ผ่าน Zoom ได้

🔍 ภายในงานมีอะไรบ้าง?

แนะนำโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน รุ่นที่ 26

เปิดข้อมูลโครงการระดับมัธยมศึกษาที่เปิดรับในหลากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร จีน กลุ่มประเทศยุโรป นอร์ดิกและสแกนดิเนเวีย โดยเนื้อหาจะครอบคลุมจุดเด่นของแต่ละประเทศ ช่วงเวลาที่เปิดรับ และคุณสมบัติของผู้สมัคร

แนะนำขั้นตอนการสมัคร และการเตรียมตัว

  • เตรียมเอกสารสำคัญ
  • ทำความเข้าใจรูปแบบการสอบสัมภาษณ์
  • วางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายและโอกาสขอทุนการศึกษา

พูดคุยกับรุ่นพี่นักเรียนแลกเปลี่ยน

พบกับ Alumni จาก IEE ที่จะมาเล่าประสบการณ์ตรง ทั้งชีวิตในโรงเรียนต่างประเทศ ความประทับใจในครอบครัวโฮสต์ และสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตหลังกลับมา พร้อมเปิดโอกาสให้ถาม-ตอบอย่างใกล้ชิด


📝 ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

*ที่นั่งแบบ Onsite มีจำนวนจำกัด กรุณาสำรองล่วงหน้า*

นักเรียนแลกเปลี่ยน

ข้อมูลโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน https://www.ieethailand.com/high-school-exchange/

ติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัคร https://www.facebook.com/ieehighschool

แลกเปลี่ยนที่ไหนดี? เปรียบเทียบ 4 ประเทศยอดฮิตแบบเข้าใจง่าย

เปรียบเทียบจุดเด่นของการไปแลกเปลี่ยนมัธยม: อเมริกา vs แคนาดา vs อังกฤษ vs จีนไปประเทศไหนดี? บทความนี้มีคำตอบ

การเลือกประเทศสำหรับไปเป็น “นักเรียนแลกเปลี่ยน” อาจเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดของน้อง ๆ และผู้ปกครอง เพราะแต่ละประเทศมีจุดเด่น ระบบการศึกษา วัฒนธรรม และสภาพความเป็นอยู่ ที่ต่างกันออกไป

บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบ 4 ประเทศยอดนิยม ได้แก่ อเมริกา / แคนาดา / อังกฤษ / จีน เพื่อให้น้อง ๆ ได้มองเห็นว่าประเทศไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด 🎯

สหรัฐอเมริกา (USA)

✅ จุดเด่น

  • ระบบการเรียนยืดหยุ่น มีวิชาให้เลือกหลากหลาย
  • กิจกรรมเยอะ ทั้งกีฬา ดนตรี ชมรม
  • วัฒนธรรมเปิดกว้าง เหมาะกับนักเรียนที่กล้าลองสิ่งใหม่

👩‍🎓 เหมาะกับใคร?

  • นักเรียนที่อยากฝึกความมั่นใจ
  • คนที่อยากเรียนแบบ American High School จริง ๆ
  • ชอบภาษาอังกฤษแบบ native และฝึกการสื่อสารเยอะ ๆ

แคนาดา (Canada)

✅ จุดเด่น

  • ประเทศสงบ ปลอดภัย เหมาะกับวัยเรียน
  • ระบบการศึกษาคุณภาพสูง ติดอันดับโลก
  • คนส่วนใหญ่พูดอังกฤษ และบางภูมิภาคพูดฝรั่งเศส

👩‍🎓 เหมาะกับใคร?

  • นักเรียนที่ต้องการบรรยากาศการเรียนที่ปลอดภัยและอบอุ่น
  • ชอบธรรมชาติ อากาศดี วิวสวย
  • คนที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษในสำเนียงชัดเจน

สหราชอาณาจักร (UK)

✅ จุดเด่น

  • ระบบการศึกษาดั้งเดิม เข้มข้น มีมาตรฐานสูง
  • วัฒนธรรมมีเอกลักษณ์ และเน้นระเบียบวินัย
  • การเดินทางไปยุโรปอื่น ๆ ทำได้สะดวก

👩‍🎓 เหมาะกับใคร?

  • นักเรียนที่สนใจเรียนแนววิชาการจริงจัง
  • คนที่ชอบความเรียบร้อย มีระบบ
  • อยากสัมผัสภาษาอังกฤษแบบ British Accent

จีน (China)

✅ จุดเด่น

  • ภาษาและเศรษฐกิจของจีนเติบโตเร็วและสำคัญมากในอนาคต
  • วัฒนธรรมที่เข้มข้นและหลากหลาย
  • โอกาสฝึกภาษาจีนกลางกับเจ้าของภาษา

👩‍🎓 เหมาะกับใคร?

  • นักเรียนที่อยากเพิ่มโอกาสทางอาชีพในอนาคต
  • สนใจเรื่องภาษา เศรษฐกิจ เทคโนโลยีจีน
  • อยากเปิดมุมมองในเอเชีย

สำหรับการไปแลกเปลี่ยนนั้น การเลือกประเทศที่ “ตรงกับตัวเอง” จะช่วยให้เราได้รับ “ประสบการณ์ที่ดีที่สุด”
ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดสำหรับการเลือกประเทศ เพราะแต่ละที่มีความพิเศษในแบบของตัวเอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “เลือกให้เหมาะกับตัวเอง” และเตรียมตัวให้พร้อม

IEE Thailand พร้อมช่วยให้น้อง ๆ ทุกคน ก้าวสู่ประสบการณ์ระดับโลก ได้อย่างมั่นใจ 🌍

📌 IEE รุ่นที่ 26 เปิดรับสมัครแล้ววันนี้! มีประเทศให้เลือกหลากหลาย ทั้งอเมริกา แคนาดา อังกฤษ จีน ยุโรป และกลุ่มประเทศนอร์ดิก

✨ พิเศษ! สำหรับ 10 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ รับทุนในอัตราพิเศษเทียบเท่าปีที่ผ่านมา* พร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมาย อาทิ กิจกรรมเตรียมความพร้อมมูลค่ากว่า 50,000 บาท และนักเรียนทุกคนจะได้รับเกียรติบัตรเมื่อเข้าสอบ*

*ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

📩 กรอกใบสมัครได้ที่นี่ https://www.ieethailand.com/leadform-high-school-exchange/

ไปแลกเปลี่ยนที่ไหนดี

สิ่งที่ผู้ปกครองควรรู้ก่อนส่งลูกไปแลกเปลี่ยน

การเตรียมตัวส่งลูกไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของครอบครัว ที่ต้องอาศัยทั้งความพร้อม ความเข้าใจ และการวางแผนอย่างรอบด้าน เพราะการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไม่ใช่แค่การเรียนในต่างประเทศ แต่คือการใช้ชีวิต ฝึกความรับผิดชอบ และเปิดโลกของลูกในแบบที่โรงเรียนทั่วไปให้ไม่ได้

1. นักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร?

โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนระดับมัธยม เป็นโปรแกรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ไปเรียนรู้และใช้ชีวิตในต่างประเทศ โดยจะพักกับครอบครัวอุปถัมภ์ (Host Family) และเข้าเรียนในโรงเรียนท้องถิ่นเหมือนนักเรียนประจำถิ่น สิ่งที่ลูกจะได้รับคือ

  • การฝึกภาษาแบบเต็มรูปแบบ
  • การเรียนรู้วัฒนธรรมต่างประเทศ
  • การปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่
  • ทักษะชีวิต เช่น ความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกับผู้อื่น

2. ลูกของเราพร้อมหรือยัง?

แม้ว่าการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจะน่าตื่นเต้น แต่ก็ต้องอาศัยความพร้อมหลายด้าน ผู้ปกครองสามารถพิจารณาได้จาก:

  • ลูกสามารถดูแลตัวเองได้ดีหรือไม่
  • กล้าเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ หรือยังลังเล
  • มีวุฒิภาวะในการปรับตัวกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง
  • พร้อมเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความเหงา ความคิดถึงบ้าน

3. จะเลือกประเทศไหนดี?

ประเทศยอดนิยมสำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยน ได้แก่:

  • สหรัฐอเมริกา – ระบบการเรียนยืดหยุ่นและหลากหลาย กิจกรรมเยอะ
  • แคนาดา – การศึกษาติดอันดับโลก ปลอดภัย ธรรมชาติสวย 
  • สหราชอาณาจักร – การศึกษาดั้งเดิม เน้นวิชาการ British Accent
  • จีน – เศรษฐกิจมาแรง วัฒนธรรมลึกซึ้ง ได้เรียนรู้กับเจ้าของภาษาโดยตรง

การเลือกประเทศที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด

4. ผู้ปกครองควรเตรียมอะไรบ้าง?

การเตรียมตัวที่ดีช่วยให้ลูกไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนได้อย่างมั่นใจ สิ่งที่ควรเตรียมมีดังนี้:

  • ศึกษารายละเอียดโครงการ และเลือกองค์กรที่น่าเชื่อถือ
  • เข้าร่วมประชุมชี้แจงหรือกิจกรรมเตรียมความพร้อม
  • เตรียมเอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต วีซ่า ประกันสุขภาพ
  • วางแผนค่าใช้จ่าย และพูดคุยกับลูกเรื่องวินัยการใช้เงิน

5. สิ่งที่ลูกจะได้กลับมา

หลายครอบครัวบอกว่า “ลูกกลับมาแล้วโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจริง ๆ” เพราะสิ่งที่เด็ก ๆ ได้จากการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมีมากกว่าแค่ภาษา ไม่ว่าจะเป็น

  • ความมั่นใจในการสื่อสาร
  • ความคิดแบบเปิดกว้าง
  • ความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น
  • โอกาสทางการศึกษาและการงานในอนาคต

การตัดสินใจส่งลูกไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเตรียมตัวให้พร้อมทั้งครอบครัว สิ่งที่ได้รับกลับมานั้น “คุ้มค่าและยั่งยืน” ทั้งในด้านทักษะ ชีวิต และความคิด

IEE Thailand เปิดรับสมัครนักเรียนแลกเปลี่ยน รุ่นที่ 26 แล้ววันนี้

พิเศษ! สำหรับ 10 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ รับทุนในอัตราพิเศษเทียบเท่าปีที่ผ่านมา* พร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมาย อาทิ กิจกรรมเตรียมความพร้อมมูลค่ากว่า 50,000 บาท และนักเรียนทุกคนจะได้รับเกียรติบัตรเมื่อเข้าสอบ*

*ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

📩 กรอกใบสมัครได้ที่นี่ https://www.ieethailand.com/leadform-high-school-exchange/

สิ่งที่ผู้ปกครองควรรู้ก่อนส่งลูกไปแลกเปลี่ยน

สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย – หมวดศึกษาต่อในสหรัฐฯ
ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา
🔗 https://th.usembassy.gov/th/category/study-in-the-us-th/

5 เหตุผลที่ควรไปแลกเปลี่ยนสักครั้งในชีวิต

1. ภาษาอังกฤษได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน

ข้อได้เปรียบที่เห็นได้ชัดที่สุดของการไปเรียนต่างประเทศ คือนักเรียนจะได้ฝึกภาษาอังกฤษ (หรือภาษาท้องถิ่น) ในสถานการณ์จริงตลอดเวลา ไม่ว่าจะในห้องเรียนกับครูและเพื่อน ในบ้านกับครอบครัวอุปถัมภ์ หรือในชีวิตประจำวันตามที่ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสามารถใช้ภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องท่องจำแบบเดิมอีกต่อไป

2. เรียนรู้โลกกว้างผ่านประสบการณ์จริง

โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสถานที่เรียน แต่คือการเปลี่ยนมุมมองชีวิตทั้งหมด นักเรียนจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ การใช้ชีวิตที่ต่างจากบ้านเกิด และรับประสบการณ์การศึกษาในระบบที่แตกต่าง ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างความเข้าใจโลกในมุมที่นักเรียนไม่เคยรู้มาก่อน

3. ได้สร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนทั่วโลก

เพื่อนจากโครงการแลกเปลี่ยนมักจะกลายเป็นเพื่อนที่อยู่กับนักเรียนไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนในชมรม หรือแม้กระทั่งครอบครัวอุปถัมภ์ หลายคนยังคงติดต่อกันแม้กลับประเทศไปแล้ว เพราะมิตรภาพที่เกิดขึ้นจากปีแลกเปลี่ยนนั้นมีนักเรียนค่ามากกว่าการเรียนรู้ทางวิชาการเสียอีก

4. ฝึกทักษะชีวิตที่ไม่มีสอนในห้องเรียน

การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคือการได้ออกจาก Comfort Zone อย่างแท้จริง นักเรียนต้องดูแลตัวเองในประเทศใหม่ รับมือกับปัญหาด้วยตัวเอง และฝึกการปรับตัวในหลากหลายสถานการณ์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนเติบโต มีวุฒิภาวะมากขึ้น มีความรับผิดชอบ และสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นทักษะที่มีประโยชน์ไปตลอดชีวิต

5. ประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตตลอดไป

หลายคนบอกว่าการแลกเปลี่ยนคือปีที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะมันไม่ใช่แค่ปีหนึ่งปีที่ได้เรียนต่างประเทศ แต่มันคือปีที่ชีวิตนักเรียนจะเปลี่ยนไปตลอดกาล นักเรียนจะมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น มั่นใจมากขึ้น และรู้ว่านักเรียนต้องการจะทำอะไรต่อไปในอนาคต นี่คือประสบการณ์ที่เงินไม่สามารถซื้อได้ แต่นักเรียนสามารถคว้าไว้ได้ด้วยตัวนักเรียนเอง

อยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ต้องทำอย่างไร?

ถ้านักเรียนกำลังสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน
ตอนนี้ IEE Thailand ได้เปิดรับสมัครโครงการแลกเปลี่ยน รุ่นที่ 26 (ปีการศึกษา 2569–2570) โดยมีประเทศให้เลือกหลากหลาย ทั้งอเมริกา แคนาดา อังกฤษ จีน ยุโรป และกลุ่มประเทศนอร์ดิก

พิเศษ! สำหรับ 10 คนแรกที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ รับทุนในอัตราพิเศษเทียบเท่าปีที่ผ่านมา* พร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมาย อาทิ กิจกรรมเตรียมความพร้อมมูลค่ากว่า 50,000 บาท และนักเรียนทุกคนจะได้รับเกียรติบัตรเมื่อเข้าสอบ*

*ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

กรอกใบสมัครได้ที่นี่ https://www.ieethailand.com/leadform-high-school-exchange/

คุณสมบัติของนักเรียนแลกเปลี่ยน IEE รุ่นที่ 26

คุณสมบัติเหล่านี้คือคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับทุนจากทาง IEE Thailand ในการไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศและ *ต้องมีคุณสมบัติทุกข้อตรงตามที่ประกาศ* ดังต่อไปนี้

  1. ณ ปัจจุบันต้องมีสถานภาพเป็นนักเรียน ในสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง ทั้งในระหว่างการสอบและระหว่างเข้าร่วมโครงการ
  2. การพิจารณาเกรด จะพิจารณาตั้งแต่ปี 2566-2568 โดยเกรดเฉลี่ยสะสมหรือ GPAX ในแต่ละประเทศจะเป็นไปตามที่ประกาศ และไม่ควรมีเกรดที่ต่ำกว่า 2.00 เกิน 5 ตัว
    • ***เฉพาะ ทุนรัฐบาล USA J-1
      • อนุโลมให้มีเกรดต่ำกว่า 2.00 ได้ไม่เกิน 3 ตัว และในภาคเรียนล่าสุดต้องไม่มีวิชาใดต่ำกว่า 2.00
      • กรณีที่ภาคล่าสุดมีเกรด ต่ำกว่า 2.00 จำนวน 1 ตัว แต่ไม่เคยมีเกรดต่ำกว่า 2.00 ใน 5 ภาคเรียนก่อนจะพิจารณาเป็นรายกรณี
      • มีเกรดเฉลี่ยภาษาอังกฤษ ในปี 2566-2568 ไม่ควรต่ำกว่า 3.00
  3. ร่างกายต้องมีความสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีความพิการ, ทุพพลภาพ ไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ไม่มีสภาวะบกพร่องทางอารมณ์ และ/หรือโรคที่ได้รับการวินิจฉัยจากจิตแพทย์ โรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ สมาธิสั้น สามารถดูแลและช่วยเหลือตัวเองได้ดี
  4. ไม่เคยได้รับโทษทางวินัยจากโรงเรียนและ/หรือทางกฎหมาย
  5. มีความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของโครงการแลกเปลี่ยนเป็นอย่างดี พร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ
  6. พิจารณาคุณสมบัติตามแต่ละประเทศ / แต่ละประเภททุน ดังหัวข้อและตารางต่อไปนี้
    • 6.1 คุณสมบัติทั่วไป (ตามประกาศของโครงการ เช่น อายุ ระดับชั้นที่ศึกษา ผลการเรียนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง)
    • 6.2 คะแนนสอบพื้นฐานทางภาษาอังกฤษ (การฟัง การอ่านจับใจความ ไวยากรณ์และสัมภาษณ์)
    • 6.3 คะแนนสัมภาษณ์ (ระดับภาษา บุคลิกภาพและทัศนคติ)
ประเทศแลกเปลี่ยนเกณฑ์คะแนนการคัดเลือก
กลุ่มทุนรัฐบาล USA J-1ผู้สมัครจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 70% จึงจะผ่านการคัดเลือก
กลุ่มทุนเอกชน USA F-1ผู้สมัครจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 50% จึงจะผ่านการคัดเลือก
กลุ่มทุนเอกชน USA F-1 Selectเกณฑ์การคัดเลือกขึ้นอยู่กับประกาศของโรงเรียน โดยปกติจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 50% จึงจะผ่านการคัดเลือก
กลุ่มประเทศแคนาดาผู้สมัครจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 50% จึงจะผ่านการคัดเลือก
กลุ่มทุนแลกเปลี่ยน/ศึกษาต่อ UKผู้สมัครจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 70% จึงจะผ่านการคัดเลือก
กลุ่มประเทศจีนผู้สมัครจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 50% จึงจะผ่านการคัดเลือก ผู้สมัครสามารถยื่นผลคะแนนสอบ HSK ประกอบการพิจารณา (ถ้ามี) หากมีผลสอบ HSK 3-4 จะได้รับการพิจารณาควบคู่ไปกับคะแนนสอบคัดเลือกของ IEE
กลุ่มประเทศในยุโรป (เยอรมนี สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส)ผู้สมัครจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 50% จึงจะผ่านการคัดเลือก *ประเทศเยอรมนี ต้องมีพื้นฐานภาษาเยอรมัน **ประเทศสเปน ต้องเคยเรียนภาษาสเปนอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป
กลุ่มประเทศนอร์ดิก (สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์)ผู้สมัครจะต้องมีคะแนนในข้อ ที่ 6.1-6.3 ผ่าน 50% จึงจะผ่านการคัดเลือก

ตอนนี้ IEE เปิดรอบสอบสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศ รุ่นที่ 26
รอบสอบเดือนพฤษภาคม 2568
สอบออนไลน์ทุกวัน อังคาร พฤหัสบดี และเสาร์ เริ่ม 6 พฤษภาคม 2568

ใครที่สนใจในโครงการและตรงกับคุณสมบัติของทางโครงการที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ช่องทางการติดต่อข้างล่างได้เลย

ตอนไปเรียน รุ่นพี่นักเรียนแลกเปลี่ยนฯ พกอะไรใส่กระเป๋าไปบ้าง

          ทุกวันนี้เวลาที่เราไปเรียนโรงเรียนที่ประเทศไทย ในกระเป๋าเราจะต้องแบกรับภาระมากมายในการขนสิ่งของของเราเช่น สมุด, หนังสือ, เครื่องเขียน หรือบางทีก็อาจจะมีเครื่องสำอางด้วย แล้วถ้าเราไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา จะต้องมีอุปกรณ์ไปโรงเรียนมากขนาดไหน เหมือนที่ไทยมั้ย แล้วอะไรที่ห้ามลืมเอาไปเด็ดขาดมั้ย วันนี้พี่ ๆ IEE เลยพารุ่นพี่ศิษย์เก่ามาแชร์ข้อมูลให้ ๆ กัน ว่าไอเท็มที่รุ่นพี่พกไปเรียนมีอะไรบ้าง

น้องพั้นซ์

  • หนังสือเรียนและหนังสืออ่านนอกเวลา
  • แฟ้ม เอาไว้ใส่ชีตเรียนในวิชาต่าง ๆ
  • สมุดจด เอาไว้จดเนื้อหาที่เรียนในวิชาต่าง ๆ
  • กล่องดินสอ (ซึ่งเป็นอะไรที่มากในความคิดของเด็กอเมริกา เพราะเขาใช้แค่ปากกาหรือดินสอแท่งเดียวในการเรียนแต่ละวิชา)
  • เอกสารสำคัญต่าง ๆ เช่น passport เอาไว้เผื่อฉุกเฉิน
  • กระเป๋าสตางค์ เอาไว้ใส่เงินสดและบัตรต่าง ๆ เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

น้องใบตอง

  • หนังสือเรียนและหนังสืออ่านนอกเวลา
  • กระเป๋าดินสอ
  • แฟ้มสะสมชีตงานทุกวิชา
  • ของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น กระเป๋าสตางค์, สายชาร์จมือถือ และอื่น ๆ

น้องพัตเตอร์

  • กางเกงขาสั้น เอาไว้เปลี่ยนตอนเรียนคาบพละ
  • กระบอกน้ำ เอาไว้ใส่น้ำดื่ม เอาไว้ดื่มระหว่างวัน
  • แฟ้ม เอาไว้ใส่เอกสารสำคัญต่าง ๆ
  • หนังสือเรียนและหนังสื่ออ่านนอกเวลา
  • สมุดจด
  • ของใช้ส่วนตัว เช่น กระเป๋าสตางค์, หูฟังและอื่น ๆ
  • ปากกาและดินสอ

จะเห็นได้ว่าน้องทุกคนจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีเหมือนๆ กัน เช่น แฟ้มเอาไว้เก็บเอกสารต่าง ๆ สมุดจด ปากกาดินสอ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านนอกเวลา แล้วหนังสืออ่านนอกเวลาคืออะไรล่ะ พี่ ๆ ขอเก็บเอาไว้เล่าในอาทิตย์ถัดไปนะ

Host Family คือใคร???

น้อง ๆ คนไหนที่ต้องการไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ เราจะต้องหาบ้านพักและโรงเรียนเองก็อาจจะเกิดความยุ่งยาก แล้วเราจะต้องหาบ้านเองมั้ย? แล้วถ้าไม่มีคนรู้จักที่นั่นจะทำอย่างไร? ในส่วนของตรงนี้พี่ ๆ IEE จะดูแลเราตลอดทั้ง 10 เดือนเลยรวมทั้งการจัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ หรือ host family

แล้ว…เราจะสามารถไว้ใจเขาได้ไหม วันนี้พี่ ๆ ก็จะมาบอกถึงเกณฑ์ในการที่จะเป็น host family เพื่อให้น้อง ๆ ได้สบายใจขึ้นว่าครอบครัวอุปถัมป์ที่เราจะไปอยู่อาศัยกับเขาด้วยในอีก 10 เดือนจะปลอดภัยกับเรา

ขั้นตอนการเป็น host family

  1. บุคคลหรือครอบครัวพิจารณาตนเองว่าสามารถเป็นเจ้าบ้านที่ดีได้
  2. จัดทำข้อมูลและใบสมัคร
  3. ตรวจประวัติอาชญากรรม
  4. ได้รับการตรวจสถานที่

การมีขั้นตอนเหล่านี้ก็เพื่อให้ครอบครัวที่จะมาเป็นครอบครัวอุปถัมป์มีความปลอดภัยกับน้อง ๆ มากที่สุด และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ว่าครอบครัวอุปถัมป์จะดูแลบุตรหลานของผู้ปกครองได้อย่างดีที่สุดนั่นเอง

สิ่งที่ครอบครัวอุปถัมป์หรือ host family ต้องเตรียมและต้องทำให้กับนักเรียนชาวต่างชาติมีอะไรบ้าง

  1. ห้องนอนและสิ่งอำนวยความสะดวก
  2. ดูแลเรื่องการเดินทางไปเรียน
  3. อาหาร 2-3 มื้อต่อวัน
  4. สิ่งอำนวยความสะดวกในการดูแลความสะอาดเสื้อผ้า

หากน้อง ๆ หรือผู้ปกครองท่านไหนสนใจที่จะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศก็สามารถติดต่อได้ตามช่องทางข้างล่างนี้ได้เลย

มาทำความรู้จักรัฐ Newfoundland and Labrador กัน

น้องๆ คนไหนอยากไปเรียนที่แคนาดาแล้วสัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ชมสัตว์ต่างๆ และสามารถไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติได้แบบไม่ต้องลำบากเดินทางไกล ที่ Newfoundland and Labrador เป็นรัฐที่เข้าเกณฑ์ที่ได้กล่าวมาข้างต้นแบบทุกประการ เพราะฉะนั้นวันนี้ พี่ๆ จะมาแนะนำรัฐนี้ให้ทุกคนรู้จักกัน

รัฐ Newfoundland and Labrador ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกที่สุดของประเทศแคนาดา โดยที่รัฐนี้จะประกอบไปด้วยเกาะ Newfoundland และภูมิภาค Labrador โดยรวมกันแล้วมีพื้นที่มากกว่าสี่แสนตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 5 แสนคน โดยมีเมืองหลวงคือเมือง St. John ที่เป็นเมืองที่มีท่าเรือธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในโลก และเมืองนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ได้ไปเที่ยวมากมาย เช่น

Signal Hill National Historic Site

 ที่นี่สร้างขึ้นในเดือน ธันวาคม ปี 1901 หรือ 123 ปีมาแล้ว โดยพื้นที่ของอุทยานจะเป็นเนินเขาที่สามารถมองเห็นเมือง St. John ได้ทั้งเมืองเลย และจุดที่สูงที่สุดมีความสูง 167 เมตร

Cape Spear Lighthouse National Historic Site

ในสมัยก่อน ที่แห่งนี้ใช้เพื่อเป็นประโยชน์ในการเดินเรือ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ชมวิวต่างๆ โดยรอบเช่น ภูเขาน้ำแข็ง, วาฬ และยังมีวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม

Water Street และ George Street

ถนนที่อันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปี ใช้เป็นศูนย์กลางการค้าของเมือง St. John และเป็นสถานที่จัดประชุมสำหรับชาวเรือจากทั่วทุกมุมโลกเพราะอยู่ใกล้กับท่าเที่ยบเรือที่ล่องเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และย่านนี้ก็มีร้านขายของที่ระลึก, ร้านเบเกอรี่และร้านอาหารมากมาย

มหาวิหาร St. John Bapist

โบราณสถานแห่งชาติและคริสตจักรของชาวอังกฤษที่เก่าแก่ที่สุดในแคนาดา ออกแบบโดย George Gilbert Scott สถาปนิกชาวอังกฤษที่โด่งดังในยุควิคตอเรียน ที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบ Neo-Gothic ที่สมบูรณ์ที่สุดในแถบทวีปอเมริกา

Fun Fact: สุนัขพันธ์ุลาบราดอร์หรือ Labrador Retriever นั้นมีถิ่นกำเนิดที่ Newfoundland and Labrador นั่นเอง

หากน้องๆ สนใจที่จะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่รัฐ Newfoundland and Labrador ก็สามารถติดต่อพี่ๆ IEE ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้เลย